วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

โรคลมชัก..รักษาได้ถ้ารู้แต่เนิ่น ๆ

โรคลมชัก


โรคลมชัก..รักษาได้ถ้ารู้แต่เนิ่น ๆ (ไทยโพสต์)

          โรคลมชักเป็นโรคที่พบได้ในคนทุกเพศทุกวัย และโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้ประมาณ 1% ของประชากรในประเทศไทย หรือคิดเป็นผู้ป่วยโรคลมชักประมาณ 6-7 แสนคน 

          โรคลมชักนั้นไม่ใช่โรคติดต่อแต่เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ซึ่งขึ้นอยู่กับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมและชนิดของการชัก และที่สำคัญ โรคลมชักพบได้ในทุกช่วงอายุ แต่หากได้รับการรักษาที่ถูกวิธีแต่เนิ่น ๆ ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ 

          ทั้งนี้ "อาการชัก" เกิดขึ้นจากความผิดปกติของกระแสไฟฟ้าภายในสมอง ซึ่งมีการนำของกระแสไฟฟ้าที่ลัดวงจร ก่อให้เกิดอาการชักตามมา หากกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติเกิดขึ้นรบกวนสมองเป็นบางส่วน จะทำให้เกิดอาการชักเฉพาะที่ในขณะที่ยังรู้ตัวอยู่ แต่ถ้าหากมีเหม่อลอยหมดสติทำอะไรไม่รู้ตัว จะเรียกว่าอาการชักแบบเหม่อ ขณะเดียวกันหากกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติเกิดขึ้นรบกวนสมองทั้งสองข้าง จะทำให้เกิดอาการชักแบบเกร็งกระตุกทั้งตัว หรือชักแบบแน่นิ่งที่พบบ่อยในเด็กนั่นเอง 

สาเหตุของโรคลมชัก 

           1.เกิดจากแผลเป็นในสมอง เช่น การติดเชื้อในสมอง อุบัติเหตุต่อสมอง หรือการชักในขณะไข้สูงในวัยเด็กที่ชักนาน หรือชักติดต่อกันหลาย ๆ ครั้ง สมองจะขาดออกซิเจน สมองถูกกระทบกระเทือน โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในระหว่างมารดาตั้งครรภ์และแรกคลอด 

           2.เกิดจากโรคทางพันธุกรรม 

           3.เกิดจากภาวะมีก้อนในสมอง เช่น เนื้องอกในสมอง พยาธิในสมอง 

           4.โรคหลอดเลือดสมองผิดปกติ แตกหรือตีบตัน 

           5.โรคทางกาย เช่น ภาวะเกลือโซเดียมในร่างกายสูงหรือต่ำ น้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำ รวมถึงโรคตับโรคไต 
          
           6.การดื่มเหล้า การกินยาบ้า เสพยาเสพติด หรือได้รับสารพิษ เป็นต้น  

การวินิจฉัยโรคลมชัก 

          แพทย์จะอาศัยข้อมูลจากลักษณะการชักที่ได้จากคนไข้และผู้พบเห็นผู้ป่วยในขณะชัก (ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต ปัจจุบัน ประวัติครอบครัว) การตรวจร่างกาย การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การตรวจคลื่นสมอง บางครั้งอาจใช้การวินิจฉัยอี่น ๆ ซึ่งอาจมีความจำเป็น เช่น การตรวจเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กสมอง การตรวจคลื่นสมองพร้อมวิดีโอ 24 ชั่วโมง การตรวจสมองโดยใช้สารกัมมันตรังสี เพื่อตรวจหาพยาธิสภาพในสมอง

การรักษาโรคลมชัก

          ดร.นพ.โยธิน ชินวลัญช์ อายุรแพทย์ระบบประสาทและสมอง คลินิกลมชัก Epilepsy Clinic ศูนย์สมองและระบบประสาทกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า มีหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็น 

           1.การใช้ยา ยังเป็นการรักษาหลักที่ใช้รักษาผู้ป่วยโรคลมชักในเด็กและผู้ใหญ่ การรักษาโดยการใช้ยาเพื่อช่วยปรับกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติในสมองให้กลับมาเป็นปกติ แพทย์จะเป็นผู้เลือกชนิดและขนาดยาที่เหมาะสมกับอาการชักของผู้ป่วยแต่ละคน ซึ่งจะใช้เวลาในการทานยาประมาณ 2-5 ปี แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาหยุดยาได้ โดยที่ผู้ป่วย 60-70% สามารถหายขาดจากโรคลมชักด้วยยา 

           2.การใช้ไฟฟ้ากระตุ้น เป็นวิธีการรักษาที่ใช้ในต่างประเทศ และนิยมทำในผู้ป่วยเด็กโรคลมชักที่ดื้อต่อยา และไม่สามารถจะรักษาโดยการผ่าตัดได้ วิธีการโดยการฝังเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าเข้าไปในร่างกาย และกระตุ้นผ่านเส้นประสาทบริเวณคอ 

           3.การควบคุมอาหารเพื่อรักษาโรคลมชักในเด็ก เป็นการรักษาทางโภชนบำบัด เพื่อให้ผู้ป่วยมีระดับ ketone ในร่างกายสูง ลักษณะอาหารจะมีไขมันค่อนข้างสูงและมีโปรตีนต่ำ วิธีการนี้จึงเหมาะสมกับเด็ก เนื่องจากพ่อแม่สามารถควบคุมเรื่องอาหารและตรวจปัสสาวะได้ตลอดเวลา โดยจะทำให้มีสาร ketone และสารดังกล่าวจะใช้ได้ผลในผู้ป่วยเด็กที่มีความผิดปกติทางสมอง ซึ่งมีอาการชักค่อนข้างรุนแรง จะทำให้อาการชักดีขึ้นประมาณ 60-70% และจะพบคนไข้ที่ไม่มีอาการชักเลยในระหว่างที่มีการให้อาหารชนิดนี้ประมาณ 30% สำหรับโรคลมชักในผู้ใหญ่จะไม่นิยมวิธี ketogenic diet เนื่องจากอาหารประเภทนี้มีไขมันค่อนข้างสูง 

           4.การผ่าตัด ในผู้ป่วยที่ดื้อยาหรือมีพยาธิสภาพในสมองที่ชัดเจน แพทย์พิจารณารักษาด้วยการผ่าตัดสมอง โดยจะวิเคราะห์ผู้ป่วยอย่างละเอียดจากทีมสหสาขา และกระบวนการตรวจที่ทันสมัยพร้อมเทคนิคใหม่ ๆ ทำให้โอกาสที่ผู้ป่วยจะหายจากชักสูงมาก โดยที่ไม่มีผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัด ในรายที่การรักษาทางยาไม่ได้ผลหรือผ่าตัดรักษาไม่ได้ ก็อาจจะใช้วิธีการกระตุ้นสมองด้วยไฟฟ้า 

          พร้อมกันนี้ คุณหมอยังได้แนะนำวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับผู้ป่วยโรคชักว่า เมื่อพบผู้ป่วยที่กำลังชัก ตั้งสติให้ดีอย่าตกใจ หลังจากนั้นให้จับผู้ป่วยนอนตะแคงหันศีรษะไปด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อป้องกันการสำลักและลิ้นตกไปอุดทางเดินหายใจ แล้วคลายเสื้อผ้าให้หลวม และห้ามใช้นิ้วหรือสิ่งของใด ๆ งัดปากผู้ป่วยขณะชัก เพราะอาจเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยและผู้ช่วยเหลือได้ หลังชักผู้ป่วยอาจมีอาการงงและยังไม่รู้สติ ห้ามยึดจับผู้ป่วยเพราะจะกระตุ้นผู้ป่วยให้ทำการต่อสู้รุนแรงได้ 

          ในกรณีที่ผู้ป่วยหลับหลังชักควรปล่อยให้หลับต่อ ห้ามป้อนอาหารหรือยาจนกว่าจะฟื้นเป็นปกติเพราะอาจสำลักได้ ที่สำคัญหากผู้ป่วยชักนานกว่าปกติหรือชักซ้ำขณะที่ยังไม่ฟื้นเป็นปกติ ควรนำส่งโรงพยาบาล เพราะการชักบ่อย ๆ อาจทำให้การทำงานของสมองบกพร่องได้






ขอขอบคุณข้อมูลจาก

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

"Check-in Mania" จะกู่ร้องบอกโลกให้รู้...ฉันอยู่ตรงนี้!!


มียูสเซอร์แอนดรอยด์จำนวนหนึ่งถามไถ่กันเข้ามา ถึงฟีเจอร์ “Place ” ใน Facebook ที่ลักษณะคล้ายกับ สี่แยกลั่นล้า” (Foursquare)  ว่าใช้งานยังไงทำไมลอง Check-in แล้วไม่ปรากฎ จุดยืน” ของตัวเอง!!
หลังจากยูสเซอร์ นางสาวบี” (นามสมมุติ) คนหนึ่ง เธอค่อนข้างคลั่งไคล้เฟสบุ๊คเอาการ เธอเป็นขาประจำ Like ของทุกคน เธอสามารถที่จะ Like ได้ทุกครั้ง แม้เธอจะไม่ชอบสเตตัส (Status) นั้นๆ แม้มันจะไม่มีความหมาย  แม้มันจะเป็นเพียงสแปม เธอหาได้สนใจ เธอรู้อย่างเดียวว่าการกด Like คือชีวิตของเธอ และเรียกเฟสบุ๊คว่าเป็นอวัยวะที่ 33+  ของตัวเอง


วันหนึ่งเธอเห็นเพื่อนๆ Check-in ใน Foursquare ลง Wall Facebook อย่างสนุกสนาน เธอต้องเก็บอาการไว้ เพราะไม่รู้จัก!! ขี้เกียจหาข้อมูล ผนวกกับเธอไม่อยากนอกใจ มาร์ค เซอร์เคอร์เบิร์ก” (Mark Zuckerberg) ใช่แล้ว!! เธอเป็นแฟนคลับเค้า หนังเรื่องโปรดของเธอคือ“The Social Network” เพลง Like ของศิลปิน Poi ถูกใช้เป็นริงโทนมือถือ

 
และแล้วมันก็มาถึง เมื่อฟีเจอร์นาม “Place” ปรากฎขึ้น เธอต้องการจะทดลองฟีเจอร์ที่ว่า ด้วยการบอกว่า วันนี้ ฉันมี ดริ๊งแดร๊ง ย่านทองหล่อ” เธอจัดการดาวน์โหลด และเปิดแอพลิเคชั่น เฟสบุ๊ค จรดปลายนิ้วอย่างบรรจงลงบนทัชสกรีนของ กาแล็กซี่เอส” ที่เธอลงทุนกิน บะหมี่กุ๊งกิ๊งรสเย็นตาโฟว์” เป็นมื้อเย็นเก็บสลึงพึงบรรจบอยู่หลายเดือนกว่าจะได้มา
เธอเรียบเรียงความคิดสุดเริ่ด เพื่อพรรณนาสเตตัส (Status) ของตัวเอง แล้วกดนิ้วอย่างแผ่วเบาที่ปุ่ม Check-in ด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องใจ หวังเรียก Like จากแฟนๆ 1 2 3…


ผ่านไปกว่า นาที ปรากฎเพียง สเตตัส ไม่ปรากฎสำเนาการมีอยู่ ณ จุด จุด นั้น … _ _”
เธอบอกกับตัวเอง มาร์ค ฉันฉุนคุณจัง!!!”     เรื่องราวจบลงด้วยกระทู้ลับหนึ่งใน Mthai.com 
วันนี้เราเลยจับ บรรดา Geo-location สำหรับ Check- in เด่นๆ ทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ในวงการมาพูดกัน เผื่อจะพอช่วยเธอคนนั้น ลองเล่น        และสร้างทางเลือกสำหรับ check -in กันดู

 
Foursquare – สี่แยกลั่นล้า
การผสมผสานอย่างลงตัวระหว่าง Location based (ระบบแสดงพิกัดเป็นแผนที่) + Social networking (สังคมออนไลน์) Facebook – Twitter โดยอาศัยเทคโนโลยี Mobile GPS มาเป็นตัวแสดงตำแหน่งของตัวเอง และอาศัยความเป็น “Game” เข้ามาเป็นแรงเหวี่ยงในตลาดแอพพลิเคชั่น ซึ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากทีเดียว ผู้ก่อตั้ง ปัจจุบันนั่งแท่น CEO คือ ” Dennis Crowley ” เป็นหนึ่งใน “Top 35 Innovators Under 35″ จัดโดยนิตยสาร MIT’s Technology ปี 2005

 
**Spacial**
มีฟีเจอร์ Bades เหมือนเหรียญรางวัล เมื่อ Check-in ผ่านกติกาใดๆ จะถูก Unlock และประกาศทั้งใน Facebook และ Twitter เป็นที่ภาคภูมิใจแก่ผู้เล่น  ควาามรู้สึกละม้ายคล้ายการสะสมสแตมป์เซเว่นแลกเก้าอี้โดเรม่อนอย่างไรอย่างนั้น
- Mayor ships ความเป็นเจ้าถิ่นแต่ละสถานที่ จะได้ทั้งจากการเป็นผู้ก่อตั้งสถานที่นั้นๆ (Add place) และการ Check-in จุดนั้น บ่อยๆ
ระบบ Check-in ของ Foursquare นั้นใช้ง่าย ตอบโจทย์ผู้ใช้ และพัฒนาสิ่งที่ควรจะมีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยเพราะเป็นเช็คอินตัวท๊อปแรกๆ
Places – ที่แห่งนี้! … ที่ไหน?
สำหรับ Facebook  แล้วเหมือนได้โชคหลายชั้น ด้วยที่ว่า Check-in ของ Foursquare นั้นเชื่อมโยงกับ Social Network ดังนั้น จึงเหมือน อยู่ ๆ ก็มีคนมาช่วยคิดฟีเจอร์เพิ่มให้ ซึ่งทางเดนนิสเองก็เคยให้สัมภาษณ์มาแล้วว่าอย่างไรเสีย สักวันนึง facebook ต้องเพิ่มฟีเจอร์เช็คอินเข้ามาอยู่ดี แต่สี่แยกลั่นล้าของเค้านั้นจะยังคงอยู่ ด้วยความที่เป็นอะไรที่มากกว่าการบอกจุดยืนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น.

 
**Spacial**
ความเป็น Social Network ในตัวเอง ทำให้การเชื่อมต่อในลักษณะของ share เป็นไปอย่างSupport กัน
สามารถเชื่อมโยงกับ Geo location เจ้าอื่นๆ ซึ่งจะส่งข้อมูลกลับมายัง Place พูดง่ายๆ ก็คือเวลาที่คุณ ทำการ check-in ไม่ว่าจะค่ายไหน คุณก็จะกดให้มันมาแปะที่ wall Face bookคุณนั่นเอง!
ลักษณะของ Place “มาร์ค” ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้เป็นลักษณะของการแสดงตัวตนว่าอยู่ตรงไหน แต่จะเน้นไปที่การแชร์สถานที่ให้คนอื่นๆได้รู้จัก เน้นใช้กับรูปแบบธุรกิจมากกว่า แตกต๊าง แตกต่าง!!
 
Google Latitude – พิกัดอากู๋
ในที่สุดตัวแม่ Search Engine ก็เพิ่มความสามารถ Check – in เข้ามา เมื่อไม่นานมานี้ ในกูเกิ้ลละติจูด ที่เป็นทั้งตัวนำทาง เป็นทั้งตัวหาสถานที่ในละแวกนั้นๆ และเป็นทั้งตัวแสดงจุดยืน ซึ่งความสามารถดังกล่าว ยังรองรับในทุกๆ ระบบปฏิบัติการได้อีก ค่อนข้างครอบคลุมทีเดียว ตัวชูโรงหลักน่าจะอยู่ที่การ เป็น navigator น้ำดีได้เนี่ยแหละ!
 
**Spacial** 
สะเทือนวงการ เช็คอิน ด้วยแบรนด์ Google 
สามารถเชื่อมกับระบบนำทางอย่าง Google navigator ได้
แสดงแผนที่ด้วยตัว Google Map
ดูท่าว่าความสามารถ check-in จะมีสถานภาพเป็นของแถมสำหรับ ระบบต่างๆ ไปทุกที แต่รูปแบบทางการตลาดนั้นกลับเป็นไปอย่างเอื้อประโยชน์กัน หยิบฟีเจอร์ นู่นนิด นี่หน่อย นำมาฟีเจอร์ริ่ง สำหรับยูซเซอร์คงติดใจในตัวแอพลิเคชั่นเช็คอิน ที่หยิบใช้คุ้นชินแตกต่างกันไป เหมือนขนมอบกรอบ ต่างรสชาติ รสไหนอร่อยถูกปากก็เลือกกินรสนั้น  แต่ที่น่าสังเกตุคือสุดท้ายไม่ว่าคุณจะเช็คอินที่ไหน แสดง จุดยืน ณ จุด ใด ก็ต้องกดโชว์ไว้ที่ wall Facebookของคุณอยู่ดี.


:: อีเมลนี้ได้รับฟอร์เวิร์ดมาจากi Care ゙♡゙ ゙♡゙ ถ้าส่งซ้ำ ขออภัยด้วยนะครับ
GM5.jpg

ส้นสูงเก๋แปลกแหวกชิมิ

คุณสาวๆ ที่ชื่นชอบในการใส่รองเท้าส้นสู  คงจะต้องอึ้ง ทึ่ง รู้สึกแปลกประหลาด  หรือประทับใจไปกับคอลเลกชั่นใหม่ของรองเท้าดีไซน์แปลกแหวกแนวพวกนี้  เพราะรองเท้าหนังแต่ละคู่ได้รับการออกแบบ ชนิดเรียกว่าคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว  
จะแปลกแหวกแนวแค่ไหน  ทิชชี่จะพาไปรู้จัก และชื่นชมความไม่เหมือนใครไปพร้อมๆ กันค่ะ
รองเท้าที่สวมใส่ได้อย่างไม่น่าเชื่อเหล่านี้  มีการออกแบบใหม่ล่าสุดจาก Kobi Levi ค่ะ
'หมากฝรั่ง'และกล้วยเป็นแรงบันดาลใจของการออกแบบในครั้งนี้  ไม่น่าเชื่อที่ปัจจุบันนี้ยังมีการแสดงโชว์รองเท้ารูปทรงนี้ที่พิพิธภัณฑ์ รองเท้า SONS ในประเทศเบลเยี่ยมด้วยนะค่ะ (ใครว่างก็ลองบินไปดูกัน)
 
รองเท้าทรงนี้ได้แรงบันดาลใจสร้างสรรค์มาจาก ผ้าตาหมากรุก ผสมผสานกับรถเข็นช้อปปิ้งในซุปเปอร์มาร์เก็ต
 
รูปทรงนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากสรีระของผู้หญิง  ที่มีผมหางม้าสีบลอนด์ยาวสลวย (รองเท้าทรงนี้ทิชชี่ถูกใจมากมาย เพราะดีไซน์บ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิงได้ชัดเจนมากๆ ค่ะ)
เชื่อได้ว่ารองเ้ท้าทรงนี้ เมื่อบรรดาหนุ่มๆ เห็น  เป็นต้องถูกใจ เพราะการออกแบบมันช่างเย้ายวนใจเสียจริงๆ
รองเท้ารูปทรงนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากไม้และเครื่องหนัง  คุณสามารถเข้าไปดูคอลเลกชั่นแปลกแหวกแนวอีกมากมายในได้เว็บไซต์  ของนายลีวายส์ (ผู้ออกแบบ)  www.kobilevidesign.blogspot.com
 
  วันนี้ทิชชี่เก็บภาพรองเท้าแปลกแหวกแนวมาให้คุณสาวๆ ได้ดูมากมาย เพื่อไปประยุกต์สวมใส่ในชีวิตประจำวันค่ะ  ขอบอกว่าแปลกจริงอะไรจริง  จะสวมใส่รองเท้าแบบไหนก็นึกถึงสรีระร่างกายของตัวเองด้วยนะค่ ว่าพร้อมไหมสำหรับการใส่รองเท้าทรงแปลกๆ เหล่านี้! 
  

ศิลปะโดย Liu Bolin

มันปลอดภัยที่จะบอกว่า Liu Bolin เป็นวันนักมายากลที่ทันสมัย ในปี 2007 พรางตาศิลปะชั้นสูงของเขาระเบิดเข้าฉากศิลปะที่เราทุกคนพูดซ้ายเกาหัวของเราที่ว่าสีของร่างกายได้อย่างลงตัวได้ผสมผสานคนเป็นพื้นหลังของพวกเขา ด้วยเสื้อผ้าที่ทีมงานของสองผู้ช่วย Bolin, สีของเขาลงจากนั้นใช้เวลาชั่วโมงการวางตำแหน่งตัวเองในหน้า Backdrops จนเขาแทบมองไม่เห็น 

มันน่าสนใจที่จะทราบว่า Bolin เริ่มวาดภาพตัวเองหลังจากที่เขาสูญเสียทุกอย่าง เมื่อรัฐบาลจีนปิดสถานที่ของเขาของการจ้างงานศิลปะวิทยาเขต Suojia วิลเลจก็คือในขณะนั้นว่าเขาตัดสินใจหันลงเส้นทางของเขาเอง "ความต้านทานของฉันให้กับรัฐบาลพลังแห่งทำให้ผมประสบการณ์ชีวิตของผู้คนที่มีสถานะทางสังคมไม่มีงานไม่มีครอบครัวไม่มีรายได้ไม่และนี่คือเหตุผลทางอารมณ์ของฉันฉันเริ่มชุดของงาน"เขากล่าวว่า "ในการทำงานของฉันเป็นศิลปินจะซ่อนการคืนค่าความแข็งแรงของเขาและเพื่อป้องกันตัวเอง. ผมต้องการให้ผู้ชมของฉันได้สัมผัสกับประเทศจีนเป็นฉันรู้ว่ามันโดยที่ศิลปินแนวความคิดของการเป็นมนุษย์ถูกละเลยครั้ง." 











หากคุณต้องการดูการทำงานของเขาใกล้ชิด, Bolin เดี่ยวจะเปิดนิทรรศการใหม่ที่ เอลี Klein Fine Art Gallery ที่มิถุนายน 29

ห้องเล็ก..แต่เจ๋ง

Short Space Bedroom Layouts


[ZoftPEDiA.com]_1008142034-001.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-002.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-003.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-004.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-005.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-006.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-007.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-008.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-009.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-010.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-011.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-012.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-013.jpg 
[ZoftPEDiA.com]_1008142034-014.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-015.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-016.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-017.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-018.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-019.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-020.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-021.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-022.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-023.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-024.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-025.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-026.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-027.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-028.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-029.jpg

[ZoftPEDiA.com]_1008142034-030.jpg
:: อีเมลนี้ได้รับฟอร์เวิร์ดมาจากZoftPEDiA_header_452x74 ถ้าส่งซ้ำ ขออภัยด้วยนะครับ