วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

บึงกาฬ

สร้างความดีอกดีใจให้กับชาวบึงกาฬเป็นยกใหญ่ เมื่อในวันพุธ ที่ 23 มีนาคม2554 นี้ บึงกาฬได้แจ้งเกิดเป็นจังหวัดที่ 77 ของประเทศไทยอย่างสมบูรณ์ถ้วนกระบวนความทางกฎหมาย และได้มีการจัดฉลองการเปิดประตูเมืองบึงกาฬ” อย่างยิ่งใหญ่ ภายหลังผ่านการลงพระปรมาภิไธย และประกาศราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554 โดยแบ่งการปกครองออกเป็น อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองบึงกาฬ อำเภอพรเจริญ อำเภอโซ่พิสัย อำเภอเซกา อำเภอปากคาด อำเภอบึงโขงหลง อำเภอศรีวิไล และอำเภอบุ่งคล้า ภายใต้พื้นที่ทั้งหมด 4,305 ตร.กม. และมีประชากรอาศัยอยู่เกือบ แสนคน ท่ามกลางความพร้อมเรื่องสาธารณูปโภคทั้งศาลากลาง อำเภอ สำนักงานอัยการ ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ แขวงการทาง สถานีตำรวจน้ำ
คำว่า บึงกาฬ” หมายถึงบึงที่มีสีดำ โดย กาฬ มาจากคำว่า นิลกาฬ ซึ่งเป็นพลอยชนิดหนึ่งที่มีสีดำ (พลอยนิลกาฬ)
บึงกาฬ เดิมทีมีสถานะเป็นแค่ อ.บึงกาฬ ที่แยกเขตการปกครองมาจากจังหวัดหนองคาย มีสภาพพื้นที่ค่อนข้างห่างไกลจากตัวเมืองไปทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของหนองคายถึง 136 กิโลเมตร ประกอบกับมีอาณาเขตเป็นแนวยาว ติดต่อกับแขวงบริคำไชย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีแม่น้ำโขงไหลกั้นพรมแดน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ภูมิอากาศที่จังหวัดบึงกาฬค่อนข้างดี ผลจากแม่น้ำโขงทำให้ไม่ร้อนมากในช่วงหน้าร้อน ส่วนหน้าหนาวก็อากาศดีเหมาะแก่การท่องเที่ยวและพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญๆ
นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมที่บึงกาฬ ก็ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ แวดล้อมไปด้วยภูเขา น้ำตกที่สวยงาม เช่น น้ำตกเจ็ดสีน้ำตกตากชะแนน ที่อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติภูวัว อีกทั้งอำเภอบึงกาฬยังมีส่วนที่ติดกับแม่น้ำโขง ตลอดริมแนวชายฝั่ง






ผู้คนชาวบึงกาฬนั้น อัธยาศัยเป็นกันเอง มีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ส่วนอาหารการกินนั้นจะอยู่ในพวกประเภทของปลา เพราะอยู่ติดแม่น้ำโขงทำให้สามารถหาปลาได้อย่างง่ายดาย




ประเพณีวัฒนธรรมของจังหวัดบึงกาฬ ได้รับการสืบทอดมารุ่นต่อรุ่นอย่างไม่ขาดหาย เพราะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างดี เทศกาลต่างๆ ของจังหวัดบึงกาฬ เช่น เทศกาลบุญบั้งไฟเทศกาลสงกรานต์
สถานที่สำคัญของจังหวัดบึงกาฬ เจ้าแม่สองนาง หลวงพ่อใหญ่ วัดโพธาราม หนองกุดทิง(พื้นที่ชุ่มน้ำ) หาดทรายบึงกาฬ โรงเรียนบึงกาฬ วัดอาฮง องการบริหารส่วนตำบลบึงกาฬ โรงพยาบาลบึงกาฬ ศาลจังหวัดบึงกาฬ ฯลฯ




แม้ตอนนี้ เราอาจจะยังทำความรู้จัก บึงกาฬได้ไม่มาก แต่ขอบอกว่า อีกไม่นาน จังหวัดที่ 77 แห่งนี้ คงจะเป็นสถานที่ที่ใครๆ ต่างก็มุ่งหน้าดั้นด้นไปเยือนให้ถึง ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึงวัฒนธรรมวิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำโขงของผู้คนที่นี่ยังคงความดิบไม่ถูกกลืนด้วยความเจริญแห่งวัตถุอยู่มาก สมดั่งกับคำขวัญประจำจังหวัดที่ว่า

สองนางศาล ศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์หลวงพ่อใหญ่ แหล่งน้ำใสหนองกุดทิง สุดใหญ่ยิ่งแข่งเรือยาว หาดทรายขาวเป็นสง่า น่าทัศนาแก่งอาฮง งามน้ำโขงที่บึงกาฬ สุขสำราญที่ได้ยล

ที่มา : bungkan.com
:: อีเมลนี้ได้รับฟอร์เวิร์ดมาจากชอบเที่ยวไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น